เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วครับสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงในตระกูล “iPhone 11 Series” เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา อย่าง iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ที่สุดของสมาร์ทโฟนเพื่อการถ่ายภาพ และสเปกแรงไฮเอนด์ขั้นสุด บนดีไซน์พรีเมียมน่าสัมผัสตัวเครื่องยังคงมาพร้อมกับดีไซน์จอไร้ขอบพร้อมรอยบากพร้อมทั้งครอบทับด้วยกระจกผสานกรอบโลหะแบบ Metal-Glass อย่างดี และที่สำคัญการมาครั้งนี้สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องกล้องและการถ่ายภาพกลางคืนได้แล้ว
สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max รุ่นท็อปที่สุดในครั้งนี้มากับการอัปเกรดครั้งใหญ่ด้วยกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว (Triple Camera) ที่มีกล้องตัวหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.8, กล้องเลนส์ Ultra Wide Angle มุมกว้าง 120 องศา ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์ซูม Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนรุ่นเล็กอย่าง iPhone 11 ยังคงใช้กล้องหลังเพียง 2 ตัวเท่านั้น แต่ทั้ง รุ่นมาพร้อมความสามารถในการถ่ายภาพกลางคืนด้วย Night Mode แล้ว
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11
จอแสดงผลแบบ Liquid Retina Display ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล (326 ppi) อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9
ขนาด: 150.9 x 75.7 x 8.3 มิลลิเมตร
หนัก: 194 กรัม
ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
หน่วยความจำแรม (RAM): 4GB
หน่วยความจำภายใน (ROM): 64GB, 128G หรือ 256GB
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับ TOF 3D camera
กล้องดิจิทัลด้านหลัง 2 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.4 และไฟแฟลช สามารถซูม Optical ได้ 2 เท่า และซูม Digital ได้ 5 เท่า
รองรับโหมดถ่ายภาพกลางคืน (Night Mode)
รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
Bluetooth 5.0
แบตเตอรี่: Apple ระบุแค่ว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า iPhone XR ราว 1 ชั่วโมง
ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ: iOS 13
ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่นที่ระดับ IP68
มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีม่วง Purple, สีขาว White, สีเขียว Green, สีเหลือง Yellow, สีดำ Black, และ สีแดง (PRODUCT) Red
ราคา: 699 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21,xxx บาท
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11 Pro
หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ Super Retina XDR ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 1125 x 2436 พิกเซล อัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9
ขนาด: 144 x 71.4 x 8.1 มิลลิเมตร
หนัก: 188 กรัม
ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
หน่วยความจำแรม (RAM): ไม่ระบุ
หน่วยความจำภายใน (ROM): 64 GB, 256GB หรือ 512GB
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง Triple Camera กล้องตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องตัวที่สามเป็น Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา รูรับแสงกว้าง f/2.4 ไฟแฟลช
โหมด Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน
อึดสุดๆ ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP68 ที่คราวนี้สามารถลงน้ำได้ลึกถึง 4 เมตร
รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
แบตเตอรี่ความจุ Apple ออกมาบอกแค่เพียงว่า iPhone 11 Pro อยู่ได้นานกว่า iPhone Xs 4 ชั่วโมง
ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13
ระบบเสียงรองรับ HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos
ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP68
มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Space Gray, Silver, Gold, Midnight Green
ราคาเริ่มต้นที่: 999 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30,xxx บาท
สรุปคุณสมบัติตัวเครื่องในเบื้องต้นของ iPhone 11 Pro Max
หน้าจอแสดงผลขอบโค้งแบบ OLED ขนาด 6.5นิ้ว ความละเอียด 1242 x 2688 พิกเซลอัตราส่วนในการแสดงผลแบบ 19.5:9 พร้อมรองรับมาตรฐานการแสดงผลแบบ HDR10
ขนาด: 158 x 77.8 x 8.1 มิลลิเมตร
หนัก: 226 กรัม
ชิปเซ็ต: Apple A13 Bionic
หน่วยความจำแรม (RAM) ไม่ระบุ
หน่วยความจำภายใน (ROM) : 64 GB, 256GB หรือ 512GB
กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
กล้องหลัง Triple Camera กล้องตัวตัวแรกเป็น Wide-Angle Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด ƒ/1.8 พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ OIS, กล้องตัวที่สองแบบ Telephoto Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.0 และกล้องตัวที่สามเป็น Ultra Wide-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล มุมมอง 120 องศา, รูรับแสงกว้าง f/2.4 และไฟแฟลช
โหมด Night Mode สำหรับถ่ายภาพเวลากลางคืน
รองรับ Face ID การสแกนใบหน้า
ส่วนการเชื่อมต่อยังเป็น Lightning
แบตเตอรี่ความจุ Apple ออกมาบอกแค่เพียงว่า iPhone 11 Pro อยู่ได้นานกว่า iPhone Xs 4 ชั่วโมง
ระบบการชาร์จไร้สายแบบเร็ว (18W Wireless Fast Charging) และฟีเจอร์ Reverse Charging
ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ iOS 13
ระบบเสียงรองรับ HDR10, Dolby Vision และ Dolby Atmos
ตัวเครื่องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำและป้องกันฝุ่น ที่ระดับ IP68
มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Space Gray, Silver, Gold, Midnight Green
ราคาเริ่มต้นที่: 1099 ดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 33,xxx บาท
ภาพ droidsans.
ที่มา sanook,techoffside
Apple เปิดตัว iPhone 11, iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ชูจุดเด่นกล้อง 3 ตัวพร้อม Night mode
Reviewed by Admin
on
วันอังคาร, กันยายน 17, 2562
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: